
4 ประเด็นจากหลังการเปิดตัว Samsung Galaxy S22 สำหรับผู้ใช้ Apple
เมื่อวานนี้ (9 ก.พ. 22) ทาง Samsung ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงประจำปีอย่าง Samsung Galaxy S22, Galaxy Tab S8 และรุ่นอื่น ๆ ซึ่งเราได้รวบรวมประเด็นสำคัญสำหรับผู้ใช้ Apple ที่กำลังเปรียบเทียบด้านต่าง ๆ มาให้ดูกัน
1) Samsung Galaxy S22 และ S22+ มีรูปร่างหน้าตาแทบจะเหมือนกับรุ่นSamsung Galaxy S21 ที่มีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว และ 6.6 นิ้วตามลำดับ รุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงในเรื่องของกล้อง การประมวณผลที่เร็วขึ้น และมีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Vision Booster ฟีเจอร์นี้จะปรับสีหน้าจอให้สวยในทุกสภาพแสง Galaxy S22+ ยังมาพร้อมกับ Wi-Fi 6E และการชาร์จเร็วสูงสุด 45W โดย iPhone 13 Pro Max สามารถชาร์จเร็วสูงสุด 27W ราคาสำหรับ S22 เริ่มต้นที่ 29,900 บาท S22+ ราคาเริ่มต้นที่ 34,900 บาท
2) ดูเหมือนว่า Samsung ได้ยกเลิกผลิตสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Note แล้ว ซึ่งตัวท็อปสุดของซีรีส์อย่างSamsung Galaxy S22 Ultra มาพร้อมปากกา S Pen ในตัว Galaxy S22 Ultra ที่ขายในประเทศไทยมีความจุสูงสุด 512GB หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.8 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz ที่สามารถปรับอัตรารีเฟรชอัตโนมัติได้ต่ำสุด 1Hz ที่ ในขณะที่ iPhone 13 Pro ปรับต่ำสุดได้เพียง 10Hz
3) Galaxy Tab S8 Ultra มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่า iPad Pro ด้วยหน้าจอแบบ sAMOLED ขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว พร้อมรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ด้านบนหน้าจอมีรอยบาก เอาไว้วางกล้องหน้า 2 ตัวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K และมาพร้อมกับ Wi-Fi 6E การชาร์จเร็วสูงสุด 45W และ S Pen รวมอยู่ในกล่องด้วย สำหรับ Galaxy Tab S8 Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 38,900 บาท
4) ทาง Samsung รับประกันว่าจะอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นระยะเวลา 4 ปี สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ได้แก่ Galaxy S21 และ S22 ทุกรุ่น, Galaxy Z Fold3, Galaxy Z Flip3, Galaxy Tab S8 ทุกรุ่น, Galaxy Watch4 และรุ่นต่างๆ ในอนาคต และจะได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยเป็นระยะเวลา 5 ปี เช่นกันเดียวกับ Apple ที่รับประกันการอัปเดต iOS เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี เห็นได้ชัดว่า iPhone 6s ที่เปิดตัวเมื่อ 6 ปีก่อนยังคงรองรับ iOS 15
ทาง Samsung เปิดให้พรีออเดอร์แล้วที่เว็บไซต์หลัก Samsung เริ่มเปิดพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 3 มี.ค. 22 และวางขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 22 เป็นต้นไป
ที่มา: macrumors